ตลาดทุนมองสเปกรัฐมนตรีคลัง-ห่วงนโยบายประชานิยมได้ไม่คุ้มเสีย

เริ่มกันที่ ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อมีความชัดเจนเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น ระยะสั้นก็เป็นพัฒนาการที่ดีตลาดสำหรับตลาดการเงินและระบบเศรษฐกิจ ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นว่ากลไกลการทำงานของภาครัฐสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เช่นเรื่องการจัดทำงบประมาณการบริหารราชการแผ่นดิน

เอกชน รอ ครม.เศรษฐา 1 แก้ปากท้อง 3 เรื่อง ใน 100 วันแรก

ตลาดหุ้นยังสดใส-ตลาดทุนฝากรัฐบาลใหม่ฟื้นเศรษฐกิจไทย

แต่ในระยะต่อไป ต้องนำเอาปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนการจัดตั้งรัฐบาลมาเป็นบทเรียนและปรับปรุงแก้ไข

เช่น หลักนิติธรรม การมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง ความตรงไปตรงมา ความโปร่งใส เพื่อบริหารประเทศต่อไปได้อย่างมีเสถียรภาพ

ความคาดหวังของประชาชนตอนนี้ คือต้องการรัฐมนตรีที่มีความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต มาพัฒนาประเทศ

ส่วนเรื่องนโยบาย เข้าใจว่าการลงเลือกตั้งเป็นการแข่งขัน แต่ละพรรคจึงต้องหานโยบายที่เป็นที่สนใจของประชาชนเพื่อได้รับคะแนนเสียง แต่ ดร.ประสารเน้นย้ำว่า เวลานี้การดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจต้องรักษาความเชื่อมั่น ไม่ควรทำอะไรที่จะเพิ่มความสงสัยต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ เพราะนักลงทุนจะห่วงเรื่องความเสี่ยง จึงต้องพยายามให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และอย่าไปซ้ำเติมให้แย่ลง

การเลือกใช้นโยบายเอาใจประชาชนเป็นเรื่องที่ดี แต่ในเวลานี้ทั้งระดับสากลและในประเทศยังมีความไม่แน่นอนสูง และมีความเสี่ยงค่อนข้างมาก การดำเนินนโนบายเศรษฐกิจควรให้ความเชื่อมั่น และความมีเสถียรภาพ

ห่วงนโยบายประชานิยมได้ไม่คุ้มเสีย

ดังนั้น การทำประชานิยม ต้องไม่เกินความสามารถของเรา และตัองดำรงความมีเสถียรภาพและความยั่งยืน อย่าคิดเฉพาะประโยชน์ระยะสั้น ควรคำนึงถึงระยะยาวด้วย มิเช่นนั้นอาจได้ไม่คุ้มเสีย

อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูกรอบนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลที่จะต้องออกมาว่าใช้เงินขนาดไหนรวมถึงเรื่องจังหวะเวลาที่เหมาะสม

ส่วนนโยบายการเงินของ ธนาคารแห่งประเทศไทย มองว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ย เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ได้คำนึงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสภาพความเป็นจริงแล้ว ไม่น่าจะขัดกับนโยบายรัฐบาลใหม่ แต่ต้องดูว่านโยบายของรัฐบาลใหม่จะมีกรอบที่ออกมาขนาดไหน และจังหวะเวลาเป็นอย่างไร

รู้จัก เงินดิจิทัล 10,000 บาท นโยบายชูโรงรัฐบาลเพื่อไทย 

ตลาดทุนมอง "นายกฯนักธุรกิจ" มาถูกจังหวะ

ด้าน ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองมีคำตอบที่ชัดเจนมากขึ้น ตลาดทุนก็เคลื่อนไหวในทิศทางที่ดี ส่วนตัวยังมองว่าการที่ได้นายกรัฐมนตรีมาจากภาคเอกชน ถือว่าถูกจังหวะเวลาพอดีคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

เพราะในช่วง 5 ปีข้างหน้าจะมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามามาก จึงต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศในภูมิภาค เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ดังนั้น การมีนายกที่มาจากภาคเอกชนจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะมีความเข้าใจภาคธุรกิจ ลำดับความสำคัญ การตัดสินใจเชิงธุรกิจ เพื่อแข่งขันกับต่างประเทศ

ตอนนี้ตลาดทุนตอบรับในเชิงบวกหลังมีความชัดเจนเรื่องนายกรัฐมนตรี แต่หลังจากนี้ต้องรอดูว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะแบ่งเค้ก จัดสรรกระทรวงกันอย่างไร พรรคไหนดูกระทรวงอะไร ใครเป็นรัฐมนตรี และรอดูความชัดเจนของนโยบายต่อไป

เพราะต้องถือว่าเป็นรัฐบาลผสม มีหลายพรรคเข้าร่วมรัฐบาล แต่ละพรรคก็มีนโยบายที่แตกต่างกัน ต้องรอดูว่าเมื่อมาทำงานร่วมกันแล้ว จะมีนโยบายที่ชัดเจนออกมาอย่างไร และการประสานงานระหว่างพรรคจะทำได้อย่างมีเสถียรภาพหรือไม่

รอดูความชัดเจนเงินดิจิทัล 10,000 บาท

ส่วนนโยบายที่หลายคนจับตามอง คือ นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทของพรรคเพื่อไทยดร.กอบศักดิ์ บอกว่า ต้องรอดูความชัดเจนว่าจะดำเนินการได้แค่ไหน อย่างไร แต่เศรษฐกิจประเทศไทยต้องการการกระตุ้นบ้างในช่วงต้นปีหน้า หากมีมาตรการที่จะมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจก็เป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้ ต้องดูความเหมาะสมว่าเงินที่เรามีจะนำไปกระตุ้นส่วนไหน อย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องรอรัฐบาลตัดสินใจ

รัฐบาลก็ต้องไปคิดว่านโยบายต่างๆ ที่เคยสัญญาไว้กับประชาชนนั้น จะทำอย่างไรให้ประชาชนยอมรับได้ และอยู่ภายใต้เงินที่มี

ขณะที่ตลาดทุนเองก็เตรียมนโยบายต่าง ๆ ที่จะนำไปหารือกับรัฐบาลเหมือนกัน รวมถึงเรื่องการขับเคลื่อนตลาดทุนไทย และการแก้ปัญหาหลอกลงทุน

คาดเศรษฐกิจเติบโตได้ประมาณ 3%

สำหรับเศรษฐกิจปีนี้คาดว่าเติบโตได้ประมาณ 3% โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญคือการท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าปีนี้ตะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 29-30 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลใหม่ต้องสนับสนุนด้วย เช่น ลดความยุ่งยากในการทำวีซ่า เพิ่มจำนวนไฟล์ทบิน ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อประคองเศรษฐกิจให้เติบโตต่อไปได้ รวมถึงต้องสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนอยากมาลงทุนในประเทศไทยด้วย

 ตลาดทุนมองสเปกรัฐมนตรีคลัง-ห่วงนโยบายประชานิยมได้ไม่คุ้มเสีย

By admin

Related Post